เกิดอะไรขึ้นกับ Super Bowl Halftime Show 2019
ใครๆ ที่ติดตามกีฬาต่างประเทศย่อมรู้จัก หรือเคยได้ยินผ่านหูกันมาบ้างสำหรับศึกอเมริกันฟุตบอลที่โด่งดังที่สุดในโลก NFL (National Football League) ของประเทศสหรัฐอเมริกา แน่นอนในความโด่งดังที่สุดในโลกย่อมเป็นที่จับตามองของคนทั้งโลกโดยเฉพาะนัดชิงชนะเลิศ Super Bowl ทำให้ในการแข่งขันในนัดชิงมีมูลค่าที่สูงมาก
และในช่วงพักครึ่งจะมีการเชิญนักร้อง ศิลปินมาขึ้นโชว์เพื่อเป็นการเอ็นเตอร์เทนผู้ชมระหว่างช่วงรอพัก ที่เรียกกันว่า “Halftime Show” แน่นอนว่าการแข่งขันที่มีมูลค่าสูงที่สุด ผู้คนทั่วโลกต่างเฝ้ารอ การจะมาขึ้นบนเวทีนี้ไม่ใช่เรื่องง่าย ดังนั้นศิลปินที่ได้รับเชิญจึงรีบคว้าโอกาสทันทีที่ได้รับเชิญจากทาง NFL
โดยในปีนี้เป็นทางวงดนตรีที่คนทั่วโลกต่างรู้จักกัน Maroon 5 นั่นเอง แต่มันเกิดอะไรขึ้น ทำไมถึงถูกมองว่าเป็นโชว์ที่แย่ที่สุดตั้งแต่มีมา ซึ่งถ้าเรามองที่สาเหตุจริงๆ แล้วเป็นเรื่องที่ละเอียดอ่อนเป็นอย่างมาก
มันเริ่มมาจากเมื่อปี 2016 ที่ Colin Kaepernick ผู้เล่นทีม San Fransico 49ers ทำท่าคุกเข่าลงในช่วงที่มีการร้องเพลงชาติอเมริกันในตอนก่อนเริ่มเกม โดยให้เหตุผลว่าเป็นการแสดงออกถึงความไม่เท่าเทียมกันของคนผิวสีในประเทศ ซึ่งในปีนั้นก็มีข่าวต่างๆ เกี่ยวกับคนผิวสีมากมาย ทั้งกดขี่ หรือแม้แต่ถูกตำรวจยิง โดยที่คนผิวสีผู้นั้นไม่มีอาวุธติดมือเลย จนกระทั่ง Colin ถูกแบนจาก NFL ไม่ให้มีการเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
จนเป็นฉนวนทำให้ศิลปินผิวสีหลายๆ คนต่างไม่พอใจกับการกระทำของ NFL เป็นอย่างมาก โดยเฉพาะ Rihanna ศิลปินผิวสีที่ออกมาปฏิเสธคำเชิญในการขึ้นเล่น Halftime Show 2019 จากการที่ Colin ถูกแบน ซึ่งก็ดันไปจัดที่เมืองแอตแลนตา ซึ่งเป็นเมื่องที่โด่งดังจากการมีศิลปินฮิปฮอปผิวสีมากมาย ทำให้เป็นประเด็นวุ่นวาย และวันโชว์ก็มาถึง
การขึ้นโชว์ครั้งนี้ของ Adam Lavis และวง Maroon 5 เป็นโชว์ที่คนดูต่างบอกว่าไม่ถึงอารมณ์ เหมือนไปไม่สุดเป็นโชว์ที่แย่ที่สุดเท่าที่มีมา ซึ่งมันดูออกได้จากทางสีหน้าของ Adam เองเลย ทำให้ยอด Dislike พุ่งพรวดไปไกลมาก ทั้งนี้ทาง Adam เองก็ได้ออกมายอมรับในความผิดพลาดที่ทำโชว์ออกมาได้ไม่ดี และจะพยายามปรับปรุงให้ดีขึ้นในโอกาสต่อๆ ไป